มีความเห็นดังนี้ครับ...
1. Sound Engineer / Sound Operator ไม่ค่อยให้ความสำคัญกับคอรัสจริง ๆ แต่ต้องเข้าใจก่อนนาว่า Sound หลายคนเขาก็แค่ "ลืม" นึกถึงเหมือนกันเพราะมันมี check-list เป็นสิบอย่างสำหรับงานดนตรี 1 งาน บางครั้งผมก็ต้องเขี่ยมือซาวด์ด้วยการบอกบ้างและส่วนใหญ่เขาก็ทำแต่โดยดีนะ (หรือว่าเป็นซาวด์เหมือนกันเลยคุยกันรู้เรื่องวะ 55555)
2. ส่วนเรื่องที่เป็น Technical-Related อย่าง Feedback (ไมค์หอน) หรือ Stage Bleed (เสียงรั่ว) อยากให้มองการ Miking วง Chorus เป็น 2 แบบคือ...
2.1 Closed-Mic - คือไมค์ 1 ตัว ต่อคอรัส 1 คน ไอ้แบบนี้ล่ะครับที่ Sound คิดว่าง่าย เพราะแค่จูนไมค์ตัวแรกให้ดี ที่เหลือมัน Copy-Paste ได้เลยไง๊
2.2 Distant-Mic - ใช้ไมค์จำนวนหนึ่งที่มีจำนวนน้อยกว่าจำนวนคอรัสแล้วจับรวม มันจะเหมือนกับในงานคลาสสิคที่ต้องจับเสียงรวมนั่นล่ะครับ เมื่อไมค์มันห่างจากต้นเสียงเพื่อให้ได้ความครอบคลุม (ต้องแลกเสมอ) มันก็มี Bleeding (เสียงรั่ว) อย่างอื่นเข้ามามาก และแน่น๊อนนน Feedback มันก็มาง่ายด้วย ง่ายกว่า Closed-Mic มากมาย
ส่วนเรื่องที่บอกว่าเกิด Feedback แล้วโทษคอรัส มันก็หลายปัจจัยอ่ะนะ มอนิเตอร์ (Wedge) ตอนนั้นมันลั่นไปหรือเปล่า (ใครขอและใครปรับก็ช่างมันเถอะ), ยิ่งถ้าเป็น Distant-Mic ใช้เกนแรงแค่เอามือไปบังหน้าไมค์ก็หอนแล้ว, หรือตำแหน่งที่ทำ Miking มันอยู่ใกล้กับแหล่งกำเนิดเสียงอื่นที่ดังกว่าคอรัส ฯลฯ มันเยอะแยะครับ
แต่สำหรับผม คอรัส ไม่ควรถูก Blame ด้วย Mindset ง่าย ๆ ของคนคุมคิวเช่น
1. คอรัสคนเยอะ เวลาเสียงรั่ว ก็นึกว่าเป็นคอรัส
2. ไมค์หอน โทษคอรัส เพราะส่วนใหญ่ที่หอนมันกเป็นไมค์ร้อง แล้วไมค์ร้องอยู่กับใครมากสุด หรือ ใช้เกนขยายมากสุด? ก็ไมค์คอรัส
ในฐานะของ Sound Engineer (ที่มีดีกรีและประสบการณ์จริง ๆ) และ คนเคยร้องคลาสสิค ผมเข้าใจในสิ่งที่คอรัสเจอดีและเข้าใจในฝั่ง Technical ด้วย
ปล. ถ้าเจ้าของสเตตัสโผล่มาเห็นแล้วไม่ชอบใจอย่างไร ก็ขออภัยเด้อ
วันนี้จะแชร์เรื่องราวเกี่ยวกับการเป็นคอรัสอาชีพให้ได้อ่านกันนะ
คอรัสอาชีพ หมายถึง นักร้องที่ร้องคอรัสเป็นอาชีพ ฝีมือระดับมืออาชีพ ไม่ใช่แค่ร้องพอได้ พอมายืนจริงก็งึมๆงำๆ
เอาล่ะ แล้วฝีมือแค่ไหนล่ะ ถึงจะเรียกว่าคอรัสอาชีพ
1. คุณต้องเทคนิคการร้องดีมาก นักร้องหลักว่าร้องสูงแล้ว บางทีเราต้องสูงกว่า สามารถสั่งเทคนิคได้ บางทีต้องร้องสูงมาก บางทีต้องร้องต่ำมาก บางทีต้องร้องลมรั่วมากๆ และต้องร้องไม่เพี้ยนเลยเป็นพื้นฐาน โน๊ตครึ่งเสียงต้องแม่น ต้องหาโน๊ต approach เก่ง
2. คุณต้องปรับเปลี่ยนสไตล์การร้องได้ตลอดเวลา บ่อยครั้งที่คอรัสจะโดนสั่งให้แรพ ในท่อนที่นักร้องหลักแรพไม่ได้ หรือ ต้องทำเสียงเป็นเด็ก หรือแม้กระทั่งเสียงหมาเห่า
3. ต้องหูดี ฟังคอร์ดออก แยกโน๊ตในคอร์ดได้ แค่นั้นไม่พอ เวลาร้องกันสามคน คุณต้องสามารถหลบหลีกไลน์กันได้อย่างรวดเร็ว บางคนเรียกว่าคู่unison คู่3 คู่5 บางคนเรียกไลน์สูง ไลน์ต่ำ เพราะแน่นอนว่างานๆหนึ่ง เค้าไม่มีเวลาให้คุณไปนั่งฝึกเป็นเดือนหรอก ข้อแตกต่างระหว่างนักร้องที่คอรัสได้ กับคอรัสอาชีพ จุดใหญ่ๆอีกจุด คือความเร็วนี่แหละ
4.ต้องทำงานร่วมกับคนอื่นเป็น คอรัสกัน2-3-4 คน ต้องฟังคนอื่นเป็น ต้องมีบาลานซ์ ไม่เด่นอยู่คนเดียว และไม่จมหาย คนอื่นร้องลม ต้องลม คนอื่นร้องเนื้อเสียงเยอะ ก็ต้องเยอะตาม ทั้งในเรื่องการทำงาน ต้องมีการซ้อมแยกจากวงอีกที นิสัยต้องได้ ไม่เป็นคนเยอะ
นี่คร่าวๆนะ
และนี่คือ สิ่งที่นักร้องคอรัสมักจะเจอบ่อยๆ
1. การกดราคา เพราะคนมักจะเข้าใจว่า คอรัสคือสิ่งที่เป็นตัวเสริม มีก็ได้ไม่มีก็ได้
แต่ๆๆๆๆ เวลานักร้องเกิดปัญหา คอรัส จะเป็นคนกลุ่มแรกที่ถูกขอให้ช่วยเวลานักร้องร้องไม่ได้ บางทีมีกัน 3 คน แต่อยากได้แบบ 80 คนแบบวงประสานเสียงในโบสถ์ เค้าก็ไม่เข้าใจอ่ะเน๊อะ
บางทีใช้เหตุผลว่า ทำเอาโปรไฟล์ไปก่อนไหม เงินน้อยช่างมัน ร้องคอรัสให้ ...... เลยน้าาา เอิ่มมมมม คนก็ไม่ได้จำหน้ากูได้ไหม อีกอย่าง โปรไฟล์กูเยอะละ ขอเงินแทนเครดิตดีกว่า 555555
แต่เรื่องการกดราคา มันก็อยู่ที่การต่อรอง เรื่องนี้ไม่ว่ากัน
2. เรื่องของการไม่ได้ซาวด์เช็ค อันนี้เป็นบ่อย sound en มักทำให้เครื่องดนตรีอื่นก่อน เพราะคิดว่าคอรัสไม่สำคัญ เดี๋ยวตอนจริงค่อยปรับไปก็ได้ พอถึงเวลาจริง ร้องเพี้ยน ซาวด์เละ ก็ด่ากูอีก มึงช่วยเดินมาฟังตรงที่กูยืนไหม สึด!!
3. เรื่องของการดูถูก - ไม่ให้เกียรติ - ไม่ให้ความสำคัญ เช่น
- เวลาไมค์feedback (หอน) แบคสเตจจะวิ่งมาที่คอรัส หรือบางทีพูดออกไมค์เลยว่า "คอรัสอย่ากำหัวไมค์นะครับ"
- เวลานักแสดงเข้าหลังฉาก แล้วทีมงานไม่ได้ปิดไมค์ ทำให้ได้ยินเสียงไมค์รั่วจากหลังเวที แบคสเตจก็วิ่งมาละบอกว่า "คอรัสอย่าคุยกัน"
..... สึส ทำไมคิดว่าคอรัสโง่กันจังวะ แต่ละคนร้องเพลงมาเป็นสิบๆปี ร้องคอนเสิร์ตใหญ่ไม่ต่ำกว่า 10 งาน แค่เรื่องกำหัวไมค์ ทำไมจะไม่รู้เชียว
- มักเจอช่างแต่งหน้าที่ไม่อยากแต่งให้ เพราะบอกว่าอยู่ข้างหลัง มองไม่เห็น ช่างแต่งหน้าที่เป็นตุ๊ดปากหมาบางคนนี่ พูดเลยนะ โอ๊ย ไม่ต้องแต่งดีหรอก เห็นแต่เงา พอเราไม่แต่ง(จิงๆก็ไม่อยากแต่งหรอก ขี้เกียจล้าง) ทีมงานก็เรียกให้แต่ง เพราะบอกว่าเผื่อกล้องจับโดน ช่างแต่งหน้าก็จะเบ้ปากใส่ และแต่งแบบแต่งหน้าศพให้ (แต่บางทีมก็ดี บางทีมแต่งจัดเต็มมาก)
-เคยมีเหตุการณ์หนึ่ง ที่คอรัสคนนึงในทีมไปหยิบอาหารกล่อง โดนสวัสดิการตวาด!! ไม่ได้นะ คุณเป็นใคร นี่อาหารของทีมงาน!! ความรู้สึกตอนนั้น เก็ทป่ะ ทำงานก็เหนื่อย หิวก็หิว แล้วทำไมไม่พูดกะกูดีๆวะ กูก็ทีมงาน
-มีอีกเหตุการณ์หนึ่ง เดินสวนกับคนดูแลศิลปินของบริษัทๆหนึ่ง เราจำหน้าเค้าได้เพราะเจอบ่อย เลยยิ้มให้และทักว่า สวัสดีครับ คงเพราะเค้าจำได้ว่าเราเป็นคอรัส เค้ามองหน้าและแสยะยิ้มให้ แล้วเดินผ่านไปเลย แต่พอมารู้อีกทีว่าเราเป็นครู เค้าพูดดีจ้าาา อันนี้คิดว่าไม่ได้รู้สึกไปเองนะ เพราะเจออะไรทำนองนี้บ่อยๆ
จะบอกว่า เป็นคอรัสอาชีพอ่ะ มันยากนะ ครูบางคนยังเป็นไม่ได้เลยจิงๆ เพราะบางคนมีแต่ทฤษฎี รู้หมดขั้นคู่อะไรยังไง แต่เอาจิง หาเสียงไม่เจอ ไม่ไว บาลานซ์ไม่ได้ สั้นยาวไม่ได้ ฟีลล์ไม่ได้ แต่อาชีพคอรัสเป็น position ที่เล็กมาก รวมทั้งศิลปินปัญญาอ่อนบางคน ก็คิดว่า คอรัสร้องไม่ดี ก็ไปเป็นคอรัส แต่ศิลปินหลายๆคน ก็เป็นคอรัสมาก่อนนะ แล้วพอเป็นศิลปิน ทุกคนก็มีคุณภาพหมด เพราะทุกคน "ทำงานเป็น"
อันนี้พูดถึงภาพรวมที่เจอๆมานะ ไม่ได้เจาะจงถึงใครยังไง บางทีมที่น่ารัก ก็น่ารักมากกกกกก (จิงๆอยากบอกว่าทีมไหนบ้างที่เรารัก แต่กลัวหาว่าลิ้นยาวขี้เลีย 5555) แต่บางทีมนี่ ก็เป็นประสบการณ์เลวร้ายของชีวิตเลย เช่น โดนศิลปินด่ากลางกอง ว่าคุณมาร้องไลน์เดียวกับผมทำไม ไปหาไลน์อื่นร้อง ..ฟาย คอรัสสามคน ก็ต้องร้องเป็นหลักคนนึงไหมอ่ะ /โดนขอให้เปลี่ยนออก เพราะบอกว่า คอรัสชายไม่โอเค พอเราถาม ว่าร้องเพี้ยนเหรอ ไม่กลมกลืนเหรอ เค้าตอบไม่ได้ ได้แต่บอกว่า ไม่รู้อ่ะ แต่มันแปลกๆ ... อ่าว!!!
จบ!! ยาวมาก 55555